สาระน่ารู้

เคล็ดลับการเลือกกินที่ทำให้หน้าอ่อนเยาว์ ดูเด็กกว่าอายุจริง

เขียนเมื่อ : 31 มกราคม 2020 - 21:44:38

Image URL

เคล็ดลับที่จะมาแนะนำนี้ เป็นเคล็ดลับเลือกกินอาหารเพื่อบำรุงผิวพรรณที่ไม่ยากจนเกินไป หาซื้อได้ง่ายและสามารถทำกินได้เป็นประจำทุกวัน

มาดูกันว่าถ้าอยาก ดูเด็กกว่าอายุจริง ต้องกินอาหารแบบไหน

กินเนื้อวัวส่วนสันนอก

คำกล่าวที่ว่า “ยิ่งกินเนื้อวัวยิ่งอ่อนเยาว์” เป็นเรื่องจริง เมื่ออายุย่างเข้าเลขสี่ การกินเนื้อวัวกับไม่กินเนื้อวัวนี่แหละจะเป็นตัวบ่งชี้ข้อแตกต่างระหว่าง “คนที่ดูอ่อนเยาว์” กับ “คนที่เข้าสู่ช่วงวัยชรา” ดังนั้นบอกได้เลยว่าเนื้อวัวเป็นอาหารที่สำคัญกับผิวที่ดูอ่อนกว่าวัยมาก สาเหตุที่เนื้อวัวมีสรรพคุณช่วยคืนความอ่อนเยาว์ เพราะอุดมด้วยกรดแอมิโนซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ผิวกระชับและเต่งตึง และอุดมไปด้วยธาตุเหล็กและสังกะสีที่ร่างกายมักได้รับไม่เพียงพอ หากขาดธาตุเหล็กและสังกะสี ร่างกายจะไม่สามารถผลิตสารประกอบที่จำเป็นสำหรับสร้างความอ่อนเยาว์ให้แก่ผิวได้ นอกจากนี้ เนื้อวัวยังอุดมไปด้วยไขมัน ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับคืนความอ่อนเยาว์ เพราะในไขมันมีคอเรสเตอรอลที่ทำหน้าที่ปกป้องความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
ปริมาณที่แนะนำให้บริโภคคือครั้งละ 150-200 กรัม สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ในกรณีที่กินเนื้อย่างตามร้าน ควรเลือกสั่งเนื้อสันนอกแล้วปรุงรสด้วยเหลือ หากทำกินเองที่บ้าน ให้ย่างบนตะแกรงหรือกระทะ แล้วโรยเหลือหรือราดโชยุแทน เพราะการจิ้มน้ำจิ้มอาจทำให้เผลอกินมากเกินไป ส่งผลให้ได้รับแคลอรีเกินปริมาณที่ร่างกายต้องการได้

กินไข่วันละฟอง

กินไข่วันละฟอง คือเคล็ดลับที่ช่วยให้ผิวกลับมาดูอ่อนเยาว์ได้อีกครั้ง เมื่ออายุเข้าเลขสาม ผิวของเราจะชุ่มชื้นน้อยลง เป็นเหตุให้เกิดปัญหาตามมา เช่น ผิวแห้ง มีริ้วรอยเหี่ยวย่น เป็นต้น
นอกจากนี้ ระบบเผาผลาญของร่างกายยังทำงานน้อยลง ส่งผลให้อ้วนง่ายขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงอายุ 20 ปี “ไข่” จึงเข้ามามีบทบาทในฐานะอาหารซึ่งช่วยป้องกันผิวเสื่อมสภาพและคืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ร่างกาย และยังเป็นโปรตีนชนิดดีที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นมากมาย เช่น ธาตุเหล็ก สังกะสี หรือวิตามินบี เป็นต้น
เมนูที่แนะนำก็คือ ไข่เจียวและไข่ดาว น้ำมันน้อย เพื่อตัดปัญหาเรื่องการได้รับแคลอรีเกินความต้องการของร่างกายและป้องกันการกินไข่มากเกินจำเป็น นอกจากนี้สารประกอบเพื่อสร้างความชุ่มชื้นจะถูกสังเคราะห์ระหว่างที่เรานอนหลับ จึงควรกินไข่ในมื้อเย็นเพื่อให้ร่างกายใช้ประโยชน์จากสารอาหารในไข่ได้เต็มที่

สปาเกตตีซีฟู้ดมื้อกลางวันอันดับหนึ่ง

สปาเกตตี คือเมนูที่อุดมไปด้วยสารอาหารต้านความชราและยังช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วย คนส่วนมากมักเชื่อว่า “กินสปาเกตตีแล้วทำให้อ้วน” ถ้าให้พูดแบบสรุปเลยก็คือ ต่อให้กินสปาเกตตีก็ไม่อ้วน เพราะในสปาเกตตีอุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร 2 ชนิด ได้แก่ 
- เส้นใยอาหารชนิดไม่ละลายน้ำ จะช่วยกระตุ้นการขับถ่าย เสริมการทำงานของลำไส้ และแก้ปัญหาพุงป่อง
- เส้นใยอาหารชนิดละลายน้ำ ทำหน้าที่ขับคอเลสเตอรอลส่วนเกินออกจากร่างกาย ควบคุมการดูดซึมคอเลสเตอรอล ป้องกันภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง ชะลอการเพิ่มของระดับน้ำตาลในเลือด และป้องกันโรคเบาหวาน ด้วยเหตุนี้ การกินสปาเกตตีจึงช่วยป้องไขมันส่วนเกินและคืนความอ่อนเยาว์ให้ร่างกาย
เมนูอันดับหนึ่งที่อยากแนะนำก็คือ สปาเกตตีซีฟู้ด เพราะนอกจากวัตถุดิบประเภทอาหารทะเลจะให้ไขมันต่ำแล้วยังเป็นแหล่งโปรตีน เสริมการทำงานของระบบเผาผลาญและช่วยชะลอวัยด้วย ดังนั้นสปาเกตตีซีฟู้ดที่มีส่วนประกอบ เช่น กุ้ง ปลาหมึก หอยชนิดต่างๆ จึงเป็นเมนูแนะนำ

กิน “ตับ” สัปดาห์ละครั้ง

ตับ เป็นเมนูมหัศจรรย์ที่ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ร่างกายได้ทุกส่วน ช่วยเพิ่มสารประกอบความชุ่มชื้นให้แก่ผิว และเป็นแหล่งอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่ส่งผลต่อการลดน้ำหนักด้วย
เมนูที่แนะนำคือ ตับผัดน้ำมันมะกอก ซึ่งเป็นเมนูที่ปรุงเองได้ง่ายๆ แค่น้ำตับมาผัดกับกระเทียมและน้ำมันมะกอกเท่านั้น มิหนำซ้ำธาตุเหล็กในตับยังจำเป็นต่อการสร้างคอลลาเจน ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น หากร่างกายมีคอลลาเจนในปริมาณที่เพียงพอก็จะช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นและความหย่อนคล้อยได้ ในทางกลับกัน เมื่อร่างกายขาดคอลลาเจน จุดด่างดำต่างๆ ก็จะเกิดตามมา ด้วยเหตุนี้ ธาตุเหล็กจึงมีบทบาทสำคัญในการช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ผิวพรรณของเรา

ขอขอบคุณข้อมูลจาก amarinbooks